รูปที่ 1 การปล่อยน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม, ที่มาของภาพ: มลพิษทางน้ำ (Water pollution)
ภัยจากสารเคมี ไม่ได้มีเพียงแต่ในรูปของก๊าซพิษที่ปล่อยออกสู่บรรยากาศจากโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังมีในรูปการปล่อยสารเคมีในรูปของสารละลายลงสู่แหล่งน้ำต่างๆ ทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสีย ไม่สามารถนำน้ำนั้นมาใช้เพื่อการบริโภค อุปโภค ระบบนิเวศน์ของสัตว์น้ำถูกทำลาย รวมถึงการส่งกลิ่นเหม็นรบกวน ทำให้ชาวบ้านระแวดนั้นได้รับความเดือดร้อนดังเช่นที่เป็นข่าวฟ้องร้องให้หน่วยงานรัฐเข้ามาตรวจสอบอยู่เป็นประจำ ตัวอย่างเช่น การปล่อยน้ำเสียออกสู่ลำคลองของโรงงาน ไทยแมค เอสทีอาร์ จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปยางพาราอัดแท่ง จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ส่งผลให้ปลาตายเป็นจำนวนมากในคลองปกาสัย [1] และในปี พ.ศ. 2553โรงงานอุตสาหกรรมฟอกย้อมได้ปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำซึ่งตั้งอยู่ริมคลองสำโรงเชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยาแสดงดังรูปที่ 2 และนอกจากนี้ยังพบว่าโรงงานอุตสาหกรรมอีกหลายแห่งที่ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาได้ปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำ ทำให้หน่วยงานกรียพีซออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฏหมายควบคุมการปล่อยน้ำเสีย บังคับให้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เปิดเผยข้อมูลการใช้สารเคมีในทุกกระบวนการและขั้นตอนการปล่อยมลพิษของโรงงานออกสู่สิ่งแวดล้อมเพื่อนำไปสู่การลดการใช้สารพิษ
รูปที่ 2 น้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมฟอกย้อม ริมคลองสำโรง
Mersmann[ รายงานว่าน้ำเสียที่ได้จากอุตสาหกรรมทางเคมีประกอบด้วยสารอนินทรีย์และสารอินทรีย์ที่ละลายน้ำได้และละลายน้ำไม่ได้ ซึ่งงานทางวิศวกรรมเคมีได้เสนอแนวทางให้การบำบัดน้ำเสียไว้ 5 แนวทางดังนี้
– วิธีทางกล (Mechanical) เช่น การกรอง การหมุนเหวี่ยงแยก
– วิธีทางความร้อน (Thermal) เช่น การกลั่น การระเหย การตกผลึก
– วิธีทางชีวภาพ (Biological) เช่น การใช้จุลินทรีย์ในการย่อยสลายหรือบำบัดน้ำเสีย
– วิธีทางเคมี (Chemical) เช่น การเติมสารเคมี หรือการใช้ แสง UV เป็นต้น
ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรม ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2539) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 กำหนดค่ามาตรฐานน้ำทิ้งที่ระบายออกจากโรงงานต้องมีคุณสมบัติดังนี้
ตารางที่ 1 ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรม
ค่ามาตรฐานน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอุตสาหกรรม |
||
ดัชนีคุณภาพน้ำ |
ค่ามาตรฐาน |
วิธีวิเคราะห์ |
1. ค่าความเป็นกรดและด่าง (pH valve) | 5.5-9.0 | pH Meter |
2. ค่าทีดีเอส (TDS หรือ Total Dissolved Solids) |
• ไม่เกิน 3,000 มก/ล. หรืออาจแตกต่างแล้วแต่ละประเภทของแหล่งรองรับน้ำทิ้ง หรือประเภทของโรงงานอุตสาหกรรม ที่คณะกรรมการควบคุมมลพิษเห็นสมควรแต่ไม่เกิน 5,000 มก./ล. • น้ำทิ้งที่จะระบายลงแหล่งน้ำกร่อยที่มีค่าความเค็ม (Salinity) เกิน 2,000 มก./ล. หรือลงสู่ทะเล ค่าทีดีเอสในน้ำทิ้งจะมีค่ามากกว่าค่าทีดีเอสที่มีอยู่ในแหล่งน้ำกร่อยหรือทะเลได้ไม่เกิน 5,000 มก./ล. |
ระเหยแห้งที่อุณหภูมิ 103-105oC เป็นเวลา 1 ชั่วโมง |
3. ค่าสารแขวนลอย (Suspended Solids) |
ไม่เกิน 50 มก./ล หรืออาจแตกต่างกันแล้วแต่ประเภทของแหล่งรองรับน้ำทิ้งหรือประเภทของโรงงานอุตสาหกรรมหรือประเภทของระบบบำบัดน้ำเสียตามที่คณะกรรมควบคุมมลพิษเห็นสมควรไม่เกิน 150 มก./ล |
กรองผ่านกระดาษกรองใยแก้ว (Glass Fiber Filter Disc) |
4. อุณหภูมิ (Temperature) |
ไม่เกิน 40°C |
เครื่องวัดอุณหภูมิ หมายเหตุ วัดขณะโรงงานดำเนินงาน |
5. สีหรือกลิ่น |
ไม่เป็นที่พึงรังเกียจ |
ไม่ได้กำหนด |
6. ซัลไฟด์ (Sulfide หรือ H2S) |
ไม่เกิน 1.0 มก./ล. |
Titrate |
7. ไซยาไนด์ (Cyanice หรือ HCN) |
ไม่เกิน 0.2 มก./ล. |
กลั่นและตามด้วยวิธี Pyridine Barbituric Acid |
8. น้ำมันและไขมัน (Fat, Oil and Grease) |
ไม่เกิน 5.0 มก./ล. หรืออาจแตกต่างแล้วแต่ละประเภทของแหล่งรองรับน้ำทิ้งหรือประเภทของโรงงานอุตสาหกรรมตามที่คณะกรรมการควบคุมมลพิษเห็นสมควรแต่ไม่เกิน 15 มก./ล. |
สกัดด้วยตัวทําละลาย แล้วแยกหาน้ำหนักของน้ำมันและไขมัน |
9. ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) |
ไม่เกิน 1.0 มก./ล. |
Spectrophotometry |
10. สารประกอบฟีนอล (Phenols) | ไม่เกิน 1.0 มก./ล. | กลั่นและตามด้วยวิธี 4-Aminoantipyrine |
11. คลอรีนอิสระ (Free Chlorine) | ไม่เกิน 1.0 มก./ล. | lodometric Method |
12. สารปราบศัตรูพืชและสัตว์ (Pesticide) | ต้องตรวจไม่พบตามวิธีตรวจสอบที่กำหนด | Gas-Chromatography |
13. ค่าบีโอดี (5 วันที่อุณหภูมิ 20 oC (Biochemical Oxygen Demand : BOD) | ไม่เกิน 20 มก./ล. หรือแตกต่างแล้วแต่ละประเภทของแหล่งน้ำทิ้ง หรือประเภทของโรงงานอุตสาหกรรม ตามที่คณะกรรมการควบคุมมลพิษเห็นสมควรแต่ไม่เกิน 60 มก./ล. | Azide Modification ที่อุณหภูมิ 20oC เป็นเวลา 5 วัน |
14. ค่าทีเคเอ็น (TKN หรือ Total Kjeldahl Nitrogen) | ไม่เกิน 100 มก./ล. หรือแตกต่างแล้วแต่ละประเภทของแหล่งน้ำทิ้ง หรือประเภทของโรงงานอุตสาหกรรม ตามที่คณะกรรมการควบคุมมลพิษเห็นสมควรแต่ไม่เกิน 200 มก./ล. | Kjeldahl |
15. ค่าซีโอดี (Chemical Oxygen Demand : COD) | ไม่เกิน 120 มก./ล. หรือแตกต่างแล้วแต่ละประเภทของแหล่งน้ำทิ้ง หรือประเภทของโรงงานอุตสาหกรรม ตามที่คณะกรรมการควบคุมมลพิษเห็นสมควรแต่ไม่เกิน 400 มก./ล. | Potassium Dichromate Digestion |
16. โลหะหนัก (Heavy Metal)
1. สังกะสี (Zn) |
ไม่เกิน 5.0 มก./ล. | Atomic Absorption
Spectro Photometry ชนิด Direct Aspiration หรือวิธี Plasma Emission Spectroscopy ชนิด Inductively Coupled Plama : ICP
|
2. โครเมียมชนิดเฮ็กซาวาเลนท์(Hexavalent Chromium) | ไม่เกิน 0.25 มก./ล. | |
3. โครเมียมชนิดไตรวาเลนท์ (Trivalent Chromium) | ไม่เกิน 0.75 มก./ล. | |
4. ทองแดง (Cu) | ไม่เกิน 2.0 มก./ล. | |
5. แคดเมียม (Cd) | ไม่เกิน 0.03 มก./ล | |
6. แบเรียม (Ba) | ไม่เกิน 1.0 มก./ล | |
7. ตะกั่ว (Pb) | ไม่เกิน 0.2 มก./ล. | |
8. นิคเกิล (Ni) | ไม่เกิน 1.0 มก./ล. | |
9. แมงกานีส (Mn) | ไม่เกิน 5.0 มก./ล. | |
10. อาร์เซนิค (As) | ไม่เกิน 0.25 มก./ล. | -Atomic Absorption Spectrophotometry ชนิด Hydride Generation หรือวิธี Plasma Emission Spectroscopy ชนิด Inductively Coupled Plasma : ICP |
11. เซเลเนียม (Se) | ไม่เกิน 0.02 มก./ล. | -Atomic Absorption Spectrophotometry ชนิด Hydride Generation หรือวิธี Plasma Emission Spectroscopy ชนิด Inductively Coupled Plasma : ICP |
12. ปรอท (Hg) | ไม่เกิน 0.005 มก./ล. | -Atomic Absorption Cold Vapour Techique |
ที่มา : http://dpm.nida.ac.th/main/index.php/articles/chemical-hazards/item/129